ดินสอแบบไหน เหมาะกับเด็กแต่ละวัย

ในยุคของโลกปัจจุบันคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักอุปกรณ์เครื่องเขียนด้ามยาวที่มีความสามารถพิเศษในการเขียนหรือวาดภาพและยังสามารถลบออกได้หากไม่ต้องการ หรือที่เรียกกันติดปากว่าดินสออย่างแน่นอน เชื่อได้ว่าดินสอจะต้องเป็นอุปกรณ์เครื่องเขียนชิ้นแรกที่เด็ก ๆ ทุกคนจะต้องเคยสัมผัสและคุ้นชินจนโตกลายมาเป็นผู้ใหญ่ในปัจจุบัน

ดินสอ มีวิวัฒนาการเริ่มมาจากมนุษย์ในสมัยก่อนใช้แปรงหรือกิ่งไม้เล็ก หรือเหล็กปลายแหลม นำไปเผาไฟและจุ่มลงในน้ำหมึกเพื่อใช้สำหรับการเขียน แต่ต่อมาได้รับการพัฒนาโดยเริ่มจากบาทหลวงชาวสวิสเซอร์แลนด์เป็นผู้คิดค้นประดิษฐ์เครื่องเขียนที่ทำมาจากขนนก แต่ยังไม่เป็นที่ยอมรับเนื่องจากมีความเปราะบางเกินกว่าจะเขียนได้ และมีการค้นพบวัสดุที่นำมาใช้ทำดินสอได้โดยบังเอิญ เกิดมาจากหินสีดำที่อยู่ใต้ดินหรือที่เรียกว่า แกรไฟต์ มีคุณสมบัติเป็นคาร์บอนสีดำชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาขีดเขียนได้อย่างคมชัด หินดังกล่าวจึงถูกนำมาพัฒนาตามยุคสมัยจนกลายเป็นแท่งขนาดต่าง ๆ ที่ภายในบรรจุไปด้วยแกรไฟต์ เพื่อมีไว้ใช้สำหรับขีดเขียนได้อย่างเช่นทุกวันนี้

ซึ่งในปัจจุบันนวัตกรรมและการพัฒนาของวงการดินสอ ไม่ได้มีเพียงแค่ดินสอไม้บรรจุไส้ดินสอแกรไฟต์สีดำแท่งยาวแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ผู้ประกอบการ โรงงานดินสอ ต่างก็พัฒนาให้ดินสอมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัยของผู้ใช้งาน จนกลายเป็นดินสอสีไม้บ้าง ดินสอสีเทียนบ้าง หรือแม้กระทั่งดินสอกดเปลี่ยนไส้ ก็มีให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลือกใช้งานได้ตามความพึงพอใจ

แต่เรื่องที่จำเป็นและควรให้ความใส่ใจสำหรับเด็ก ๆ คือการเลือกใช้ดินสอให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละวัย ถือเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะดินสอจะเป็นอุปกรณ์ชิ้นแรกที่จะช่วยในการพัฒนากล้ามเนื้อและการเริ่มต้นเขียนหนังสือ ซึ่งพัฒนาการและความสามารถในการจับดินสอขีดเขียนตามแต่ละช่วงอายุของเด็กจะมีความแตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกดินสอให้เหมาะกับวัยเด็ก จึงควรพิจารณาเลือกใช้ตามหลักการดังนี้

  1. เด็กอายุ 1 ปี – 1 ปีครึ่ง

เป็นวัยที่เพิ่งเริ่มจับอุปกรณ์ ควรหลีกเลี่ยงการให้เด็กเล็กจับดินสอหรืออุปกรณ์ที่มีรูปร่างเล็กผอม ควรให้เริ่มจากอุปกรณ์ที่มีลักษณะด้ามอ้วน เนื่องจากกล้ามเนื้อของเด็กในวัยนี้เพิ่งจะเริ่มมีการพัฒนา จึงยังไม่สามารถควบคุมน้ำหนักในการจับอุปกรณ์เล็กผอมได้ ประกอบกับเด็กยังไม่มีแรงกดมากพอที่จะสามารถใช้งานได้ด้วยตนเอง ควรให้หัดเริ่มจับดินสอสีเทียนก่อนก็ได้เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พัฒนาก่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งในปัจจุบันดินสอประเภทสีเทียนก็สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านขายเครื่องเขียนอย่างง่ายดาย ราคาก็จะอยู่ประมาณ 100-200 บาท ถือว่าไม่แพงเลยสำหรับการเริ่มต้นพัฒนาเด็ก

  1. เด็กวัย 2 – 3 ปี

วัยนี้จะมีการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กมาได้ในระดับหนึ่งแล้ว จึงควรให้เริ่มจับดินสอได้ แต่ให้เลือกดินสอที่มีด้ามจับที่ใหญ่กว่าปกติ เพื่อเป็นการเริ่มต้นการขีดเขียนหรือวาดเส้นลวดลายต่าง ๆ ยังไม่ควรให้จับดินสอแบบปกติเพราะเด็กอาจจะยังมีความคุ้นชินกับอุปกรณ์ด้ามอ้วนที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้ ถ้าเปลี่ยนไปให้ใช้ดินสอแบบปกติเลยอาจทำให้กล้ามเนื้อมีอาการเกร็ง เนื่องจากจะต้องใช้แรงกดและการควบคุมที่ยากกว่าปกติ ซึ่งเด็กในวัยนี้เป็นวัยแห่งการเริ่มต้นเขียน ควรให้เขาได้มีอิสระในการวาดเส้นหรือขีดเขียนได้ตามความต้องการ

  1. เด็กวัย 3 – 4 ปี

เด็กในวัยนี้สามารถให้เขาจับดินสอแบบปกติได้แล้ว แต่ควรเลือกเป็นแบบดินสอไม้ อย่าเพิ่งให้ใช้ดินสอกดหรือดินสอเปลี่ยนไส้ได้ ซึ่งการเขียนเป็นตัวหนังสือยังไม่เหมาะกับเด็กในวัยนี้สักเท่าไร ควรให้เขาเริ่มจากการวาดเส้น วาดรูป หรือทำลวดลายตามจินตนาการ เพื่อให้เขาสามารถปรับเปลี่ยนท่าทางหรือทิศทางในการขีดเขียนได้มากขึ้น และสร้างความคุ้นชินในการจับดินสอให้ได้มากที่สุด ผู้ปกครองสามารถสังเกตได้จากเด็กในวัยประมาณนี้ว่าลูกจะชอบหรือให้ความสนใจการเขียนมากน้อยเพียงใด หากเด็กคนไหนที่แสดงพฤติกรรมที่ไม่ค่อยชอบการขีดเขียนสักเท่าไร ก็ลองหาดินสอที่มีลวดลายที่เขาชอบ หรือสั่งทำแบบพิเศษตามร้านหรือโรงงานที่ รับทำดินสอ เพื่อดึงดูดความสนใจก็ได้

  1. เด็กวัย 4 ปีครึ่ง – 7 ปี

เป็นช่วงวัยที่จะต้องจับดินสอให้เป็นและถูกต้อง เพื่อป้องกันการเมื่อยล้า และลดการเสียดสีที่นิ้วมือจนกลายเป็นตุ่ม ซึ่งวิธีการจับที่ถนัดและถูกต้องจะสามารถช่วยให้เขาเขียนได้ดีขึ้น และควบคุมน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น เพราะเด็กในวัยนี้ต้องเริ่มหัดเขียนหนังสือให้เป็นรูปเป็นร่างได้แล้ว โดยเริ่มจากการวาดรูปทรง ตัวเลข และตัวอักษรไทยและอังกฤษตามลำดับ

จะเห็นได้ว่าดินสอ คืออุปกรณ์ที่อยู่กับมนุษย์มาตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ช่วงอายุ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร ดินสอก็ยังคงเป็นอุปกรณ์เครื่องเขียนสุดคลาสสิกที่ต้องมีติดตัวอยู่ตลอดเวลา และในปัจจุบันดินสอยังมีการพัฒนาทั้งรูปร่าง สีสัน และรูปแบบที่แตกต่างมากขึ้นกว่าสมัยก่อน บางองค์กรถึงกับมีการทำ ดินสอสกรีนโลโก้ สัญลักษณ์องค์กรไว้ใช้งานภายในกันเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าดินสอในแต่ละแบบจะมีหน้าที่สำหรับใช้งานเขียนเหมือนกัน แต่เชื่อไหมว่าการได้เขียนหรือใช้ดินสอที่ชอบจะสามารถเพิ่มความคิดหรือไอเดียใหม่ ๆ ได้อีกด้วย