ดินสอ ถือเป็นอุปกรณ์เครื่องเขียนชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นไม้แท่งผอมทรงสูงที่ภายในบรรจุด้วยไส้สีดำใช้สำหรับการวาดภาพ เขียนหนังสือ หรือถ้าเป็นการระบายสี ไส้ที่อยู่ภายในจะมีสีสันอื่น ๆ ตามสีของธรรมชาติ หากใช้จนหมดไส้ก็สามารถใช้กบเหลาและใช้งานต่อไปจนกว่าจะหมดแท่งไม้

ดินสอไม้ มีกี่ประเภท

เครื่องเขียนชนิดนี้เป็นอุปกรณ์ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยหรือกี่ช่วงอายุคน ก็ยังคงมีความจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งปัจจุบันอุปกรณ์นี้ มิได้มีเฉพาะแท่งในรูปแบบไม้แล้วเท่านั้น วงการเครื่องเขียนมีการพัฒนาจนกลายเป็นรูปแบบที่สามารถกดและไส้จะไหลออกมาเองได้ ไม่จำเป็นต้องใช้กบเหลาเหมือนกับแบบไม้อีกต่อไป แต่เคยสงสัยกันไหมว่า อุปกรณ์ที่ใช้ขีด ๆ เขียน ๆ กันในทุกวันนั้น มันทำมาจากอะไรและทำไมมันถึงใช้เขียนก็ได้หรือลบก็ได้ หากยังไม่ทราบก็เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันเลย

วัสดุและส่วนประกอบ
ปัจจุบันมีวัสดุหรือส่วนประกอบที่นำมาใช้ทำ ดินสอ ก็มีความแตกต่างกันไปมากกว่า 40 ชนิด แต่ส่วนประกอบหลัก ๆ ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่
เปลือกหุ้ม หรือไม้ที่ใช้สำหรับการหุ้มไส้ภายใน โดยส่วนใหญ่มักใช้ไม้เปลือกบาง แต่ที่นิยมมากที่สุด คือไม้ซีดาร์ หรือตระกูลไม้สน มีกลิ่นหอม เนื้ออ่อนจึงทำให้เหลาได้ง่าย
Graphite (แกรไฟต์) หรือแร่ธาตุสีดำ นำใช้ทำเป็นไส้ภายใน ลักษณะโดยภายนอกเป็นของแข็งเมื่อผ่านความร้อนหรือนำมาขึ้นรูปแล้วจะเกิดการสะสมของแร่ธาตุและอัดตัวแน่น ทำให้มีความแข็งแรง ไม่แตกหรือหักโดยง่าย

Clay หรือดินเหนียว ที่ใช้สำหรับผสมแกรไฟต์เพื่อเพิ่มความแข็งหรืออ่อนของไส้ หมายความว่า ดินสอที่มีสีเข้มมาก ๆ ก็จะมีความแข็งมากเนื่องจะมีส่วนผสมของดินเหนียวมากนั้นเอง ซึ่งประเภทของดินสอที่ใช้งานในปัจจุบัน จะแบ่งตามลักษณะของไส้เป็น 3 แบบ หลัก ๆ ได้แก่

• แบบแข็ง ใช้สำหรับการเขียนงานที่ต้องมีความนิ่งหรือใช้สำหรับการร่างแบบ โดยเบอร์ที่มีเลขมากก็จะมีความแข็งที่มากขึ้น เช่น 4H 5H 6H เป็นต้น
• แบบปานกลาง ใช้สำหรับการเขียนงานทั่วไป เช่น B HB F H 2H เป็นต้น
• แบบอ่อน ใช้สำหรับการเขียนงานศิลปะจะมีสีดำมากขึ้นอยู่กับแต่ละเบอร์ เช่น 2B 3B 4B เป็นต้น

อักษรกำกับคุณสมบัติ
หากลองสังเกตให้ดีจะเห็นว่าแบบแต่ละชนิดมีมีตัวหนังสือภาษาอังกฤษกำกับอยู่ 3 ตัว ได้แก่ B H และ F ทั้งสามตัวนี้ก็มีความหมายที่แตกต่างกันดังนี้

• ตัว B (Blackness) คือ ความดำของไส้ ส่วนตัวเลขด้านหน้าจะบอกระดับความเข้มของสี เช่น 4B จะเข้มกว่า 2B
• ตัว H (Hard) หมายถึง ความแข็งของไส้ มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับตัวเลขที่ระบุด้านหน้า
• ตัว F (Fine) เป็นความละเอียด เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้ความคมและความละเอียดของเส้น

เชื่อได้เลยว่ายังมีหลายคนที่ใช้วิธีการเลือกซื้อ ดินสอ โดยการนำมาทดลองเขียนก่อนซื้อ เพื่อดูระดับความเข้ม ดูความคมชัด แต่อันที่จริงแล้วเพียงแค่รู้จักวิธีการดูรหัสที่ระบุอยู่บนแท่งก็สามารถเลือกหยิบซื้อได้อย่างง่ายได้ และไม่ต้องลองให้เสียเวลาอีกด้วย